วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เทคนิคการเหยียบกระเดื่อง




เทคนิคการใช้เท้า Bart บอกว่าเท้าของคุณต้องติดอยู่กับกระเดื่องเสมอ ไม่ว่าคุณจะเหยียบกระเดื่องแบบยกส้นหรือแบบไม่ยกส้น โดยเทคนิดพื้นฐานทั่วไป ปลายเท้าของคุณต้องอยู่บนกระเดื่องถ้าไม่เช่นนั้นหัวกระเดื่องจะไม่อยู่นิ่ง ทำให้คุณไม่สามารถบังคับหัวกระเดื่องได้ และไม่สามารถเล่นกลองได้อย่างมีDynamic การที่เท้าไม่อยู่บนกระเดื่องตลอดเวลาอาจทำให้มีเสียงดังอื่นรบกวนได้ ซึ่งรวมถึงเท้าที่อยู่บนHi-Hat ด้วย มีมือกลองจำนวนมากตีกลองแบบยกส้นเท้า ขณะที่บางคนก็ไม่ยก( ซึ่งเหยียบได้เร็วมาก) ทั้งสองแบบนั้นดีทั้งคู่ ซึ่ง Bart บอกว่าเค้าใช้ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับว่า ในตอนนั้นต้องการเล่นแบบไหนBart คิดว่าการไม่ยกส้นนั้นสามารถควบคุมเท้าได้ดีที่สุด ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างมาก เมื่อใดที่ Bart ต้องการการเล่นที่เร็วขึ้น เค้าจะยกส้นเท้าขึ้นประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งจะทำให้สามารถหมุนข้อเท้าไปมา และ สไสล์โดยใช้ปลายเท้า หรือบางครั้ง Bart จะสไลล์กระเดื่องแบบไปข้างหน้าและถอยหลัง หรือสไลด์ในแนวด้านข้าง แต่ต้องควบคุมให้เท้าอยู่บนกระเดื่องเสมอ Bart คิดว่าเทคนิคการใช้เท้าเหมือนกับเทคนิคการใช้มือเทคนิคการใช้มือ คุณต้องใช้มือทั้งสองข้าง ข้อมือ หรือนิ้ว ทั้งสามอย่างนี้ผสมผสานกัน ซึ่งมันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเล่นแนวไหน ถ้าต้องการเล่นเบาและTempo ที่เร็ว Bart จะใช้นิ้วมากขึ้น ถ้าต้องการเล่นที่ดังหนักแน่นเค้าจะใช้แขนมากขึ้นด้วยการยกไม้ให้สูงขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องตีให้แรงขึ้นเทคนิคดังกล่าวเหมือนกันกับการใช้เท้า ถ้าเล่นแบบยกส้นโดยใช้ข้อเท้าสไลด์ไปมาเทียบกับการยกส้นโดยใช้เท้าเหยียบทั้งขา Bart บอกว่าถ้าเค้าต้องการเล่นที่เร็วขึ้น เค้าจะยกส้นและสไลด์หมุนข้อเท้าไปมา แต่ถ้าต้องการเล่นที่เร็วและดัง เค้าจะยกส้นขึ้นและใช้น้ำหนักของเท้าทิ้งลงตามแรงดึงดูดของโลกเพื่อยันกระเดื่องBart สอนนักเรียนของเค้าว่าต้องควบคุมให้กระเดื่องเด้งกลับมาหลังจากกระแทกหนังแล้วเสมอ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงที่เต็มมากกว่า และจะช่วยทำให้หัวกระเดื่องกลับมาหยุดอยู่ในจุดที่พร้อมจะตีครั้งต่อไป ยกตัวอย่างเช่น การต่อสู้เมื่อคุณต่อยคู่ต่อสู้แล้วคุณต้องดึงมือกลับมาในตำแหน่งที่พร้อมจะต่อยครั้งต่อไป เช่นเดียวกันกับมือที่ตีกลอง เมื่อตีแล้วมือสะท้อนกลับมา เสียงที่ได้จะเต็มที่กว่าและน่าพอใจ แทนที่จะตีแล้วกดค้างไว้กลับหนัง เสียงที่ได้จะไม่เคลียร์ แต่บางครั้งคุณอาจอยากได้เสียงแบบกระแทกๆ คุณก็จะต้องปล่อยให้หัวกระเดื่องค้างอยู่ที่หนัง สรุปแล้วขึ้นอยู่กับว่าต้องการเสียงแบบไหน Bart บอกว่าเค้าต้องคุมเท้าให้ได้ตามที่ต้องการ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามที่ความเคยชิน ซึ่งควบคุมไม่ได้ สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ในการเหยียบกระเดื่องคือต้องมีความต่อเนื่อง ต้องได้เสียงที่ชัดเจน และต้องพัฒนาเทคนิคการเหยียบทั้งสองแบบ และต้องสามารถทราบความแตกต่างถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในการเหยียบกระเดื่อง คือการปรับสปริงกระเดื่อง Bart บอกว่ามือกลองทุกคนนั้นมีสรีระที่ต่างกัน น้ำหนักไม่เท่ากัน ดังนั้นการตั้งสปริงที่เหมาะสมกับคุณคือ เมื่อคุณวางเท้าลงบนกระเดื่องโดยไม่กด หัวกระเดื่องต้องกดลงมาครึ่งทางระหว่างตำแหน่งที่ค้างอยู่กับหนัง แต่ถ้าวางเท้าลงแล้วหัวกระเดื่องสัมผัสกับหนังเลย หรือห่างเล็กน้อยประมาณ 1 นิ้ว นั้นแปลว่าสปริงอ่อนเกินไป ตรงกันข้ามถ้าวางเท้าแล้วหัวกระเดื่องแทบจะไม่ขยับเลย อย่างนี้คือแข็งเกินไปครับ ต้องปรับใหม่ Bart มองว่าหัวกระเดื่องจะต้องเคลื่อนไหวอย่างอิสระที่สุดแต่ไม่มากจนเกินไปที่สำคัญคืออย่าเกร็ง และไม่ควรใช้พลังงานมากเกินไปเพราะจะทำให้เหนื่อย และตีกลองได้ไม่นาน Bart พูดปิดท้ายว่าที่พูดไปเป็นแค่ มุมมองของเค้าคุณควรฟัง / สังเกตุ มือกลองคนชั้นนำอื่น พิจารณาถึงสิ่งที่ดีและไม่ดีของเค้า แล้วCopy สิ่งดีๆมาใช้เป็นเทคนิคของตน และอย่าเกร็งค๊ะ การเพิ่มความเร็วให้เท้าคุณ มือกลองหลายคนมักมีไม่ค่อยพอใจในเรื่องการใช้เท้าของตน ปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นการขาดความเร็วในการเหยียบ ปัญหารองลงไปได้แก่ขาสั่นไม่ค่อยมีกำลัง ลองอ่านดูเทคนิคและเคล็ดลับดังนี้ มีสองเหตุผลหลักคือคุณให้เวลาในการฝึกเท้าน้อยเกินไปและ การฝึกฝนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตรงนีผู้เขียนแนะนำหนังสือที่ควรหามาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ได้แก่หนังสือชื่อ Stick Control โดย George L.Stone ที่นี้ลองมาดูการฝึกในเบื้องต้นก่อนดังนี้ Single Stroke Roll เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เพื่อนมือกลองทุกท่านคงต้องเคยฝึกด้วยการใช้มือมาแล้วทุกคน ตอนนี้คุณต้องหันมาใช้เท้าฝึกแล้วละ คุณอย่าคิดว่า Single Stroke จะมีประโยชน์แค่สำหรับมือกลอง 2 กระเดื่องเท้านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อมือกลองกระเดื่องเดียว ที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อเท้าและขาแข็งแรง เพิ่มการตอบสนองต่อการสั่งงานได้ดีขึ้น ช่วยการตีเน้นBass Drum ในสำเนียงเพลง Funky หรือการทำเสียงโครมครามของHihat และยังช่วยให้คุณเล่นเพลงที่ต้องใช้เท้าซ้ายเหยียบ Hihat ในบางจังหวะลองดูตรงนี้แนวทางที่จะช่วยให้คุณฝึก Single Stroke ในเท้าของคุณ

1. ตั้งเมโทรนอมที่ความเร็วประมาณ100 bpm

2. ตี Single Stroke ด้วยมือ R L R L R L R L หนึ่งห้อง จากนั้นในห้องที่สองเปลี่ยนเป็นใช้เท้า ฝึกซ้ำไปมา จนคุณรู้สึกว่าเท้าของคุณรู้สึกสบายๆไม่เกร็ง ถ้าเท้าของคุณเคลื่อนไหวไม่ถูกส่วน จะทำให้เมื่อยล้าและเคลื่อนไหวไม่ถูจังหวะ ถ้าเป็นเช่นนี้ ต้องลดความเร็วของTempo ลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และจะไม่ทำให้เมื่อยล้า สำหรับความเร็วมากๆคุณต้องฝึกใช้เท้าด้วยวิธีเดียวกับการฝึกมือ คาถาง่ายๆที่อยากแนะนำคือ อย่างเกร็ง

3. ลองปรับความเร็วของ metronome ขึ้นจนถึง 160 BMP แล้วสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา หลายวันหรือเป็นอาทิตย์ ก็ต้องฝึกนะครับอย่าเร่งรีบเกินไป

4. ลองเพิ่มตี Single Stroke ด้วยมือ R L R L R L R L สองห้องจากนั้นในห้องที่สามและสี่เปลี่ยนเป็นใช้เท้า แล้วกลับไปเริ่มที่มือใหม่ เช่นเดียวกันคือค่อยๆปรับความเร็วไปจนถึง160 BMP และใช้เวลาฝึกประมาณ ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาช่วงดูTV จะช่วยให้คุณฝึกได้ไม่เบื่อ และไม่จดจ่ออยู่กับเวลาที่ต้องฝึก กล้ามเนื้อคุณจะแข็งแรงขึ้น

5. พึงตระหนักไวว่า เราไม่ได้ฝึกเพื่อทำให้เร็วเล่นได้เร็วขึ้น แต่เป็นการฝึกเพื่อทำให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรง ความเร็วนั้นไม่มีประโยชน์ ถ้าปราศจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การฝึกที่ถือว่าบรรลุเป้าหมายนั้นคือ คุณฝึกแบบฝึกข้างบนนั้นจนสามารถเล่นมันได้อย่างสบายๆ ในความเร็วที่มากสุดในเมทรอนอมนั้น ในระยะเวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมง ขอบอกเคล็ดอีกครั้งคือคุณต้องไม่เกร็ง ผ่อนคลายอาจเป็นช่วงที่คุณดูTV สนุกเพลินๆอยู่ นอกจากนั้นความเร็วที่ว่าสูงสุดในเมทรอนอมนั้นอาจผันแปรไปตามที่เท้าและขาของคุณสามารถทำงานได้ดี ในเบื้องต้นนี้ผู้เขียนยากกำหนดเป้าหมายระยะสั้นว่าคุณควรเล่นได้ในความเร็ว 208 BMP ผู้เขียนย้ำส่งท้ายว่าไม่ต้องการให้คุณเป็นมือกลองที่ชนะเลิศในด้านการตีกลองที่เร็วสุด แต่มันจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากถ้าในการสร้างความเร็วของคุณนั้นมันเป็นไปพร้อมกับความแข็งแรงและแข็งแกร่งในขาเท้าและขาของคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น